พูดถึงเรื่องน้ำหอมแล้ว คงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายๆคน ต้องทำใจนิดนึงนะคะ ว่าน้ำหอมมันก็จัดเป็นของฟุ่มเฟือยประเภทนึงเหมือนกัน
ส่วนตัว Keera แล้วเป็นของที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว ขอแอบบอกว่า Keera ‘จิตมากค่ะ ชอบน้ำหอมมาก ก็เลย…..
1. ถ้าอารมณ์กำลังเหงาจัดจะซื้อน้ำหอมค่ะ-แต่ไม่บ่อยเพราะมันแพง
2. ถ้ามีคนที่นึกถึงมากๆ จะซื้อกลิ่นที่ทำให้นึกถึงคนๆนั้น หรือกลิ่นที่คนๆนั้นเคยใช้ – เช่น ตอนนึกถึงแม่ก็ซื้อ Pleasure ของ Estee Lauder
3. เวลารู้สึกอยากทำตัวน่ารัก ก็จะซื้อน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกแบบนั้น
4. ชอบฉีดน้ำหอมตอนนอน—-ตลกมั้ยคะ เป็นสาเหตุแรกที่เริ่มฉีดน้ำหอมเลย
5. ชอบให้น้ำหอมเป็นของขวัญค่ะ—สำหรับคนที่รักหรือเพื่อนที่รักเท่านั้น เพราะรู้สึกว่ามันจริงใจมาก—เกี่ยวมั้ย? แล้วก็อยากได้น้ำหอมเป็นของขวัญด้วย (ถ้าถาม) เพราะคนที่ให้น้ำหอม Keera ส่วนใหญ่เป็นคนที่สนิทกับเราจริงๆ
เวลาที่เค้าให้เรามา…ด้วยความที่ความชอบของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน จัดเป็นเรื่อง sensitive อย่างนึง
พอได้รับน้ำหอมที่เค้าให้เรามาเป็นของขวัญ Keera ก็จะคิดไปว่า “อืม…เค้ามองเราประมาณนี้เหรอ….” คือว่ากลิ่นมันก็สะท้อนบุคลิก
แล้วก็มุมมองของคนๆนั้นต่อตัวเรานะค่ะ เลยคิดว่าคนที่เค้าให้น้ำหอมเรา นอกจากเค้าจะรู้ว่าเราชอบน้ำหอมมากแล้ว เค้าเองก็เสี่ยงเหมือนกัน
นะคะ เพราะเราอาจไม่ชอบก็ได้ เค้าก็ต้องมีความมั่นใจประมาณนึง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่ากลิ่นบางกลิ่นที่ได้รับมา
จะไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
ก็จะเก็บเอาไว้เปิดขวดดม เวลาที่นึกถึงคนให้ค่ะ
6. ถ้าไม่สนิท จะไม่ชอบให้ใครมาใช้น้ำหอมด้วย
—-รู้สึกว่ามันเป็นของที่ค่อนข้างจะ “intimate” ส่วนตัวนิดนึงค่ะ ถ้ามีคนไม่สนิทมาขอใช้ จะรู้สึกอึดอัดนึดนึงค่ะ
7. ไม่ชอบใช้น้ำหอมให้หมดขวดค่ะ อย่างน้อยก็ขอให้มันติดก้นขวดไว้นิดนึงก็ยังดีจะได้แอบรู้สึกว่า….เออ…มันยังไม่หมดนี้
8. ชอบแวะร้าน้ำหอม หรือเคาน์เตอร์น้ำหอมเป็นงานอดิเรก— ขอแอบบอกว่าตอนอยู่เมืองนอกแวะไปอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง
9. เนื่องจากแวะร้านน้ำหอมบ่อย เพราะฉะนั้นในกระเป๋าก็จะมีกระดาษที่คุณพนักงานฉีด tester ให้ ติดไว้เยอะมากๆ เรียกว่าถ้ามีใครขอเศษกระดาษจดเบอร์โทร ก็จะเป็นสิ่งแรก ที่หลับตาควานเอามาจากกระเป๋าสุดรกได้
10. ถ้าเป็นกลิ่นที่ชอบ จะแอบจดรายละเอียดของกลิ่น ขนาด และราคา ไว้ด้านหลังกระดาษ tester แล้วเก็บไว้พิจารณาสำหรับน้ำหอมขวดต่อไป….เพราะฉะนั้น เพื่อนๆของ Keera จะสามารถถามได้ตลอดเวลาว่าตอนนี้แนะนำอะไร (เคยแอบอยากไปหางานทำที่ร้านน้ำหอมเหมือนกัน…คงจะมีความสุขมาก) ซึ่งขอบอกเลยนะคะว่าที่ต่างประเทศ ถ้าเราซื้อน้ำหอมจากร้านที่ได้รับใบอนุญาตเนี่ย เราจะได้น้ำหอมแท้ แล้วก็ถูกกว่าในห้างอีกค่ะ แล้วก็จะมีน้ำหอมหลากหลายกว่าด้วย (ทั้งยี่ห้อที่ดังและไม่ดัง) แต่น้ำหอมบางอย่าง (พวกตัว top) เนี่ยก็จะขึ้นห้างเท่านั้น
11. ที่ๆดีที่สุดที่ Keera สามารถเล่น..ดม…จดรายละเอียดของกลิ่นได้ แล้วที่ airport dutyfree เนี่ยก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า เค้าค่อนข้างปล่อยให้ลูกค้าเลือกดมได้อย่างอิสระ (จะได้ไม่รู้สึกว่าต้องซื้อ) โห…สำหรับ Keera แล้วเนี่ย ที่ dutyfree เหมือนเป็นสวรรค์เลยค่ะ
ถ้าได้เดินทางก็อยากไปก่อนเวลานานๆจะได้ไปเล่นก่อน (เหมือนไปสวนสนุกเลย ตาเป็นประกายสุดๆ happyมากๆ)
12. ถ้าเจอกลิ่นที่ชอบ ประมาณว่ายืนอยู่ป้ายรถเมล์ แล้วลมพัดกลิ่นน้ำหอมจากคนข้างๆมาเตะจมูกแล้วชอบล่ะก็….จะถามออกไปทันทีค่ะ
ประมาณว่า…..”ยู…ขอโทษนะ…น้ำหอมหอมมากเลย….กลิ่นอะไรเหรอ?”
13. แอบหลอนคนอื่นๆ ด้วยความที่จมูกดีมาก สามารถบอกได้เลยถ้าเป็นน้ำหอมกลิ่นที่เคยดมหลายครั้งว่าคนๆนั้นใช้น้ำหอมอะไร
เช่น เคยทักเพื่อนที่คณะ (ผู้ชาย) คนนึงที่อยู่ในลิฟต์ว่า “แกใช้ Davidoff Cool Water ตัวของผู้หญิงใช่มั้ย?” ก็ปรากฏว่าใช่
เพราะเพื่อนคนนั้นฉีดน้ำหอมของพี่สาว
หมายเหตุ*** อันนี้วัดไม่ได้นะคะว่าไม่แมน มีผู้ชายหลายคนที่ Keera รู้จักชอบใช้น้ำหอมผู้หญิงค่ะ ตัว Keera เองถ้าอยากรู้สึกแมนๆ
หรือว่าต้องการให้ตัวเองรู้สึกเข้มแข็ง ประมาณว่า “I am stronger (than you thought)” ก็จะฉีดน้ำหอมผู้ชายค่ะ
เป็นกลิ่นผู้ชายเลย ไม่ใช่ Unisex (คือ กลิ่นที่สามารถใช้ได้ทั้งหญิงและชาย ไม่หวานมาก กลิ่นออกหอมเย็น)
อันนี้เพื่อนเกาหลีแอบเรียก Keera เล่นๆ ว่า “Gecko” ประมาณว่า “จมูกหมา” อ่ะค่ะ
14. เคยคิด…ว่าอยากทำงานเป็นคนคิดกลิ่นน้ำหอมขึ้นมาใหม่ (อาชีพแปลกมาก) น่าจะมีใครบัญญัติศัพท์เฉพาะ เอาไว้เรียกพวกเค้าเหล่านี้นะคะ….แม้แต่ตอนนี้เองก็ยังคงคิดอยู่ว่า….ถ้าแต่งงานอยากไปฮันนีมูนที่ฝรั่งเศสตอนใต้ แถวๆแคว้น Grasse หรือที่อิตาลีตอนใต้ที่เกาะ Sicily แคว้น Calabria ค่ะ รู้มาว่าเค้ามีโรงงานผลิตน้ำหอม ที่เราสามารถผสมกลิ่นเองได้ แล้วก็ทำเป็นพวกแชมพู ครีมอาบน้ำ ฯลฯ ได้ด้วยค่ะ รู้สึกว่าจะแพง แต่อย่างน้อยก็ขอฝันซักครั้งนะคะ